Customer Reviews

101 เคล็ดวิชาที่ฉันได้มา จาก Harvard Business School
4
ค่อนข้างดีเพราะว่าสรุปมาให้อ่านง่ายสำหรับคนที่ไม่ชอบอ่านหนังสือ 555
โดย: ลักกี้แมน วันที่เขียนรีวิว: 16 เมษายน พ.ศ. 2558

เป็นหนังสือเล่มเล็กที่เหมาะมากสำหรับคนชอบอ่านหนังสือภาษาอังกฤษแต่ว่าไม่ชอบอ่านหนังสือเล่มใหญ่ๆเพราะมันจะสรุปมาให้แบบสั้นๆเลยครับ หนังสือเล่มนี้มีเนื้อหาที่กระชับและค่อนข้างมีประโยชน์ ไม่ใช่เรื่องที่ส่วนใหญ่เราก็รู้อยู่แล้ว ค่อนข้างคุ้มในระดับหนึ่งครับ ^^
กล้าลุยไม่กลัวล้ม DARE TO DO
5
เป็นหนังสือที่ดีมากๆสำหรับคนรุ่นใหม่ที่ต้องการทำ startup
โดย: ลักกี้แมน วันที่เขียนรีวิว: 16 เมษายน พ.ศ. 2558

ช่วงหลังมานี่ผมไม่ค่อยได้ซื้อหนังสือแนว how to แล้วหลังจากที่เคยซื้อมาเยอะมากสมัยก่อน แต่พักหลังที่ผมเริ่มหันมาสนใจเกี่ยวกับธุรกิจแนว startup มากขึ้นก็กลับมาซื้อหนังสือแนวนี้มากขึ้นตาม ซึ่งในไทยนั้นยังไม่ค่อยมีหนังสือแนวนี้โผล่มาเท่าไหร่ แต่หนังสิือ เล่มนี้นั้นเมื่อลองเปิดเข้าไปดูก็ต้องบอกได้ว่าโอ้วววว เป็นเรื่องราวที่ไม่เคยมีเขียนที่ไหนมาก่อนเลย มันแบบว่า original สุดๆ และยังมีจุดสำคัญที่ดีมากๆในหลายๆเรื่องของแต่ละคน โดยที่สำคัญที่สุดส่วนใหญ่กว่า 70% เป็นของนักธุรกิจแบบ entrepreneur ซึ่งตรงกับที่ผมต้องการอ่านมากๆเลยครับ มีทั้งเรื่องราวของผู้ก่อตั้ง ookbee ensogo grabtaxi ซึ่งเป็นธุรกิจ internet ที่น่าสนใจมากๆ และสามารถระดมทุนจากนักลงทุนต่างประเทศได้หลายร้อยล้านเลยทีเดียว (บางท่าน exit เป็นพันล้านเลยทีเดียว) แต่ละท่านได้ให้มุมมองที่น่าสนใจเกี่ยวกับธุรกิจที่ตัวเองทำอยู่ค่อนข้างเยอะ แบ่งย่อยเป็นหัวข้อความยาวพอประมาณประมาณคนละ 10 หัวข้อ หนังสือดีๆแบบนี้หาอ่านยากมาก ต้องซื้อเล่มนี้มาอ่านกันให้ได้สำหรับคนที่ต้องการเริ่มธุรกิจของตัวเอง
โตเกียวเที่ยวนี้รวย
5
เป็นหนังสือของ stock2morrow ที่อาจจะดีที่สุดในบรรดาหนังสือทั้งหมด
โดย: ลักกี้แมน วันที่เขียนรีวิว: 01 ธันวาคม พ.ศ. 2557

มีเนื้อหาค่อนข้างเยอะเลยทีเดียวครับ ภายในเล่มจะมีเรื่องราวเกี่ยวกับการลงทุนในหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งพวกเราส่วนใหญ่อาจจะไม่คุ้นเคยกัน แต่ว่าการได้ดูหุ้นจากต่างประเทศซึ่งจริงๆแล้วก็เป็นหุ้นที่ทำธุรกิจที่พวกเรารู้จักกันดี จะช่วยให้เราสามารถนำมาปรับใช้ในการลงทุนในประเทศไทยได้ครับ เนื้อหาจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลักๆ ส่วนแรกจะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับผู้เขียนอย่างคร่าวๆซึ่งตรงนี้เนื้อหาสำคัญไม่เยอะแต่อ่านแล้วสนุกดีครับ เนื้อหาส่วนที่สองเป็นตอนที่มีข้อมูลเยอะ และ ละเอียดไม่ใช่น้อยเลยครับ โดยจะมีหุ้นจากหลากหลายอุตสาหกรรมที่หายากในประเทศไทย เช่น ธุรกิจเกมส์ รถยนต์ งานศพ แฟชั่น และ ยา ซึ่งมีหลายบริษัทที่เราเคยได้ยินมานานแล้ว เช่น โตโยต้า นินเทนโด แต่มีหลายบริษัทที่เพิ่งเข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทย เช่น fast retailing เจ้าของแบรนด์ UNIQLO ซึ่งภายในเล่มนั้นจะอธิบายในแต่ละหมวดค่อนข้างดีและเล่าอย่างสนุกมีแทรกมุขด้วย อ่านแล้วได้ข้อมูลเยอะกว่าหนังสือหุ้นเล่มอื่น และยังสนุกอีกด้วยครับ เนื้อหาส่วนที่ 3 อาจจะดรอปเรื่องข้อมูลไปหน่อยแต่ก็ยังสามารถหาสาระได้จากหลายประโยคที่ผู้เขียนได้นำมาเล่าเพิ่มเติมเกี่ยวกับประสบการณ์ของผู้เขียนครับ
5
เป็นหนังสือที่มาจากกระทู้ในพันทิปที่ดีที่สุดกระทู้(เล่ม)หนึ่งครับ ^^
โดย: ลักกี้แมน วันที่เขียนรีวิว: 08 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

เป็นหนังสือที่ยอดเยี่ยมมากเนื่องจากกว่าถูกเขียนขึ้นจากประสบการณ์จริงครับ โดยหนังสือเล่มนี้ถูกดึงเนื้อหามาจากกระทู้ในเว็บพันทิปซึ่งผมเคยอ่านอยู่แต่ลืมไปแล้ว จำได้ว่าดีมากๆ เลยลองซื้อมาอ่านอีกรอบครับ เนื้อหาเกี่ยวกับผู้เขียนได้เข้าไปลงทุนในอสังหาแล้วสามารถมีเงินเป็นหลายสิบล้านได้ครับ ซึ่งเขาได้บอกว่าเขาไม่ได้เกิดมารวย แต่ก็ยังสามารถทำได้ครับ โดยเป็นการเริ่มจากเล็กๆไปก่อน เช่นการซื้อคอนโดหรือบ้านเดี่ยวจากแหล่งต่างๆ เช่น กรมบังคับคดี หรือ ธนาคาร เพื่อนำมาตกแต่งและขายต่อครับ ซึ่งเขาได้ให้คำแนะนำมากมายในเล่ม โดยมาจากประสบการณ์จริงครับ ไม่ได้เอามาจากตำรา ซึ่งก็คงไม่มีประโยชน์ในสถานการณ์จริงครับ นอกจากนี้ยังมีตอนที่ได้เข้าไปแย่งกันซื้อบ้านในโครงการที่ถูกแบ็งค์นำมาขายต่อเพื่อสร้างและขายต่ออีกด้วยครับ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าสนใจและอ่านสนุกมากๆครับ สุดท้ายผู้เขียนก็ได้ขายบ้านออกมาเหลือไว้อยู่บางหลัง และมีเงินสด รวมทั้งหมดหลาย 10 ล้าน จากเงินลงทุนเพียงไม่ถึงล้านครับ ถือว่าเก่งมากๆครับ

ภายในเล่มมีการแนะนำวิธีหลายวิธีในการเลือกซื้ออสังหาเพื่อนำมาขายต่อ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทำเล กฎหมาย ราคา แม้แต่การเข้าประมูลซึ่งมีหลายเรื่องกว่าจะมาซึ่งกำไรครับ มีเรื่องการปล่อยเช่าอีกด้วยว่าเราจะคำนวนผลตอบแทนคร่าวๆอย่างไรครับ ผู้เขียนเขียนได้ดี อ่านง่าย สนุก อ่านแล้ววางไม่ลงเลยทีเดียวครับ คุ้มแน่ๆเล่มนี้ ^_^
5
เป็นหนังสือหุ้นที่ดีมากๆอีกเล่มหนึ่ง เนื้อหามีประโยชน์ไม่น้อยเลยครับ
โดย: ลักกี้แมน วันที่เขียนรีวิว: 08 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

เนื้อหาดีกว่าที่คิดเยอะครับ เล่มนี้ ส่วนใหญ่เท่าที่เคยอ่านหนังสือของสำนักพิมพ์นี้มา 2-3 เล่ม ส่วนใหญ่ดีมากๆครับ ไม่เหมือนสำนักพิมพ์บางที่ เนื้อหาน้อยและไม่มีรายละเอียดที่สำคัญที่พอจะนำมาใช้จริงได้เลย เล่มนี้เกี่ยวกับนักลงทุนท่านหนึ่งที่เก่งมากๆและมีพอร์ตใหญ่ระดับหมื่นล้าน โดยธุรกิจที่ทำเงินให้เขาเยอะที่สุดคือธุรกิจเกี่ยวกับโรงพยาบาลครับ โดยคุณวิชัยทองแตงได้เริ่มต้นจากการเข้าไปเทคโอเวอร์โรงพยาบาลเปาโลและทำให้ธุรกิจสร้างเงินสดมากขึ้นกว่าเดิม หลังจากนั้นจึงเข้าไปเทคโรงพยาบาลพญาไทที่มีปัญหาเยอะมาก แต่สุดท้ายก็แก้ไขปัญหาได้ (แต่ก็ต้องปวดหัวมากมาย) หลังจากนั้นจึงรวมโรงพยาบาลเข้าไว้ในบริษัทเดียวเพื่อที่จะนำเข้าตลาดหลักทรัพย์ แต่ก็ได้คิดแผนใหม่ซึ่งเป็นการรวมกับกลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพแทน เพราะจะได้เป็นบริษัทที่ใหญ่และแข็งแกร่งขึ้น(ที่สำคัญคือสร้างมูลค่าหุ้นได้สูงกว่า) สุดท้ายตอนนี้โรงพยาบาลกรุงเทพก็มี marketcap เกือบ 3 แสนล้านเข้าไปแล้วครับ ส่วนคุณวิชัยถือหุ้นอยู่เท่าไหร่ก็ต้องลองเข้าไปดูกันเองเองนะครับ นอกจากนี้ยังมีเรื่องเกี่ยวกับการเข้าไปร่วมลงทุนในธุรกิจเคเบิ้ลทีวีกับกลุ่มหนังสือพิมพ์ไทยรัฐอีกด้วย คือตอนแรกไม่ได้วางแผนจะเข้าไปแต่โดนดึงให้เข้าไปช่วย เช่นเอาเงินให้ยืมก่อน แต่ไปมาๆกลายเป็นเข้าไปลงทุนก้อนใหญ่เลยครับ ในเล่มได้พูดถึงเรื่องกลุ่มนักธุรกิจเคเบิ้ลท้องถิ่นว่าจะทำอย่างไรถึงจะอยู่รอดได้ครับ

โดยรวมแล้วเล่มนี้คุ้มครับ ^^
ขยะเป็นทอง
4
เป็นหนังสือที่ค่อนข้างดี ถ้าชอบอ่านประวัติคนเก่งครับ
โดย: ลักกี้แมน วันที่เขียนรีวิว: 25 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ช่วงแรกของหนังสือก็ดีนะครับ เป็นการเล่าประสบการณ์ชีวิต และการทำงานที่สนุก แต่เสียอย่างเดียวครึ่งหลังของเล่มเหมือนกับให้คนอื่นเอาข้อมูลมาเขียนๆให้ ไม่ค่อยมีการเล่าเรื่องแบบเป็นกันเองกับผู้เขียนซักเท่าไหร่ แต่โดยรวมก็ถือว่าเป็นหนังสือนักธุรกิจเล่าประสบการณ์ที่ดีอีกเล่มครับ ให้คะแนนเยอะเพราะเป็นหนังสือธุรกิจขยะที่หาคนทำไม่ค่อยได้ซักเท่าไหร่ครับ เป็นการเปิดโลกว่ามีธุรกิจแบบนี้ที่สามารถทำเงินได้มากเช่นกันครับ
ซามูไรพเนจร เล่ม 01
5
การ์ตูนในตำนาน เนื้อเรื่องไม่ตื่นเต้นมากแต่มีพล็อตที่ดี
โดย: ลักกี้แมน วันที่เขียนรีวิว: 06 กรกฏาคม พ.ศ. 2557

เป็นการ์ตูนที่เก่าอีกเรื่องหนึ่งแต่สำนักพิมพ์ได้จัดพิมพ์ออกมาใหม่เป็นแบบ bigbook ผมเคยอ่านเรื่องนี้มานานมาก และไม่รู้ว่าทำไมถึงยังจำเนื้อเรื่องได้แม่นมาก คิดว่าน่าจะเป็นเพราะว่าเป็นการ์ตูนที่สนุก มีเนื้อเรื่องที่น่าติดตาม มีจุดสำคัญที่ทำให้จำได้ง่าย มีลายเส้นที่เป็นเฉพาะตัวมากๆและไม่รก ทำให้อ่านแล้วรู้สึกไม่เหนื่อย โดยเนื้อเรื่องของแต่ตัวละครที่แม้จะไม่ใช่ตัวเอกก็มีเจาะลึกทำให้ไม่รู้สึกว่าเป็นการ์ตูนที่ตัวเอกเทพอยู่คนเดียว และแม้แต่เคนชิน (พระเอก) เองก็ตามก็มีเนื้อเรื่องปูมหลังให้ชวนติดตาม โดยจะเผยออกมาเยอะๆตอนท้ายเรื่องว่าจริงๆแล้วเมื่อก่อนนั้นเคนชินมีอีกบุคลิกนึงที่ต่างจากเคนชินผู้ใจดีอย่างลิบลับ (แต่ก็เท่ห์น่าดู) และเนื้อเรื่องทั้งหมดนั้นไม่ได้มีตัวร้ายแค่ตัวเดียวแต่เหมือนกับจะแบ่งออกเป็นหลายๆช่วง พอตัวร้ายคนแรกตายไป ก็เกิดตัวใหม่ขึ้นมาทำให้มีเนื้อเรื่องที่ยาวพอสมควร ยิ่งทำให้อ่านแล้วก็รู้สึกว่าเป็นการ์ตูนที่มีพล็อตที่ดีเรื่องนึงเลยครับ โดยส่วนตัวแล้วชอบอาจารย์ของเคนชินมากเพราะดูไปดูมาเหมือนจะเก่งกว่าพระเอกเสียอีก แถมยังเท่ห์ด้วยครับ ^^
เกม 7 ชิ้นสร้างอัจฉริยะ
5
หายากชะมัด หนังสือเล่มนี้ ใครหาเจอบอกหน่อย
โดย: ลักกี้แมน วันที่เขียนรีวิว: 02 กรกฏาคม พ.ศ. 2557

เป็นหนังสือที่ดีมากครับ ช่วยทำให้สมองเราได้ทำงานอย่างสุดความสามารถอย่างแน่นอนนนนนนนนนนนนนนนนนน ^^
ลงทุนอย่าง...ปีเตอร์ ลินช์ : Beating the Street
5
หนังสือลงทุนในตำนานของปีเตอร์ลิ้นช์ ใครไม่อ่านห้ามบอกว่าตัวเองเป็น vi
โดย: ลักกี้แมน วันที่เขียนรีวิว: 01 กรกฏาคม พ.ศ. 2557

หนังสือเล่มนี้กับ one up on wall street เป็นหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนในหุ้นเล่มแรกๆที่ผมอ่าน และมันยังเป็นหนึ่งในหนังสือการลงทุนที่ดีที่สุดติดอันดับ top five ของผมอีกด้วย ถ้าจะให้ลิสต์ออกมาผมว่ามีดังนี้ 1. ตีแตก 2. one up on wall street 3. beating the street 4. the intelligence investor 5. หนังสือของ ดร. นิเวศน์ ทุกเล่ม และจดหมายถึงผู้ถือหุ้นของวอเรน บัฟเฟตทุกฉบับ และอื่นๆอีกมากมาย แต่หนังสือพวกนี้ต้องเรียกว่า ถ้าท่านไม่อ่านท่านคงยังไม่สามารถเรียกว่าเป็นนักลงทุนได้ด้วยซ้ำ คงไม่ต้องร่ายยาวว่าข้างในหนังสือเล่มนี้มีอะไรมาก พูดได้คำเดียวว่าซื้อเก็บโลด!
รวยสู้วิกฤต
4
หนังสือชีวประวัติของนักธุรกิจที่เก่งอีกคนครับ อ่านแล้วได้ข้อมูลเยอะดี ^^
โดย: ลักกี้แมน วันที่เขียนรีวิว: 28 มิถุนายน พ.ศ. 2557

หนังสือเล่มนี้นั้นผมบังเอิญเจอตอนผมไปเรียนที่ netdesign ซึ่งก็เห็นว่าเป็นของเจ้าของเขียนเองน่าจะมีเรื่องให้เรียนรู้จากเขาได้ ซึ่งก็จริงครับ เป็นหนังสือที่เล่าเรื่องราวของเจ้าของตอนเริ่มก่อตั้งธุรกิจสอนคอมพิวเตอร์ได้ดีในระดับหนึ่ง โดยเนื้อเรื่องส่วนหลังอาจจะมีเล่าเรื่องการบริหารเงินบ้างซึ่งไม่ใช่เป้าหมายในการซื้อหนังสือเล่มนี้ของผม แต่การได้รู้เรื่องราวของนักธุรกิจที่สร้างตัวเองขึ้นมาจาก 0 คนหนึ่งอย่างคร่าวๆนั้น ก็ถือว่าการซื้อหนังสือเล่มนี้คุ้มแล้วครับ
เหนือกว่าวอลสตรีท ONE UP ON WALL STREET
5
หนังสือในตำนานเหนือตำนาน อันดับ 1 ตลอดกาล สำหรับ vi โดยเฉพาะ
โดย: ลักกี้แมน วันที่เขียนรีวิว: 28 มิถุนายน พ.ศ. 2557

สุดยอดแห่งหนังสือหุ้นการลงทุนเป็นหนังสือหุ้นที่อ่านง่ายที่สุดเล่มหนึ่ง โดยผู้ที่เคยอ่านหนังสือของปีเตอร์ลิ้นช์เล่มอื่นมาแล้ว เล่มนี้ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง ถ้าจะเอาจริงๆแล้ว เล่มนี้น่าจะเป็นหนังสือที่ดีที่สุดของปีเตอร์ลิ้นช์เลยด้วยซ้ำ เพราะเขียนให้อ่านเข้าใจง่าย และมีหลักการที่จำง่ายมากๆอีกด้วย ปีเตอร์ลิ้นช์จะแบ่งหมวดหุ้นออกเป็นหมวดๆให้เข้าใจง่าย เช่น หุ้นโตเร็ว หุ้นโตปานกลาง หุ้นโตช้า หุ้น turn around หุ้น asset play ซึ่งแนวทางในการซื้อขายหุ้นแต่ละประเภทก็จะแตกต่างกัน และต้องควรมีความคาดหวังที่แตกต่างกันในการถือหุ้นแต่ละตัวด้วย

ภายในเล่มมีการเล่าถึงเรื่องตัวเลขที่จำเป็นในการคำนวนมูลค่าพื้นฐานคร่าวๆของหุ้นแต่ละตัวซึ่งก็ไม่ใช่การใช้สูตรที่ซับซ้อนอะไรมากมาย จะมีพวกค่า P/E P/B growth rate ซึ่งตัวเลขเหล่านี้เข้าใจง่ายมาก และยิ่งได้ปีเตอร์ลิ้นช์ใช้ศัพท์ที่สุดแสนจะง่ายในการอธิบายอีกก็ยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่ครับ

นอกจากนี้ยังมีเรื่องสำคัญที่สุดอย่างเช่นการมองหุ้นให้เหมือนการลงทุนในธุรกิจซึ่งไม่สามารถทำกำไรได้ภายในระยะเวลาอันสั้น เขาได้กล่าวว่ากำไรที่ทำได้มากๆนั้นส่วนใหญ่เกิดจากการถือหุ้นเป็นระยะเวลาที่ค่อนข้างนานซึ่งอย่างน้อยก็ 2-3 ปีซึ่งบางทีมากกว่า 5 ปีด้วยซ้ำ ภายในเล่มยังได้อธิบายถึงเรื่องที่นักลงทุนทั่วไปก็สามารถลงทุนชนะนักลงทุนมืออาชีพที่บริหารกองทุนได้ไม่ยาก เพราะพวกมืออาชีพนั้นจะต้องถูกกฎต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการบริหารกองทุนทำให้ไม่สามารถลงทุนได้อย่างยืดหยุ่น (อาจจะลงทุนในหุ้นตัวเล็กที่โตเร็วไม่ได้)

ภายในเล่มยังมีตัวอย่างและกราฟหุ้นหลายตัวที่เขาได้เคยลงทุน ซึ่งแม้ว่าอาจจะไม่ใช่บริษัทในไทย แต่ก็ได้แสดงให้เห็นว่าหุ้นหลายเด้งนั้นมีจริงและก็ควรจะถือไว้นานกว่าที่ควร เพราะการที่หุ้นขึ้นเพียงเล็กน้อยแล้วคิดว่าได้กำไรเยอะแล้วจะขาย อาจจะเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดที่สุดในชีวิตเลยก็ได้

โดยรวมแล้วหนังสือของปีเตอร์ลิ้นช์เล่มนี้ได้ทำให้ผมกลายเป็นเศรษฐีหุ้นขนาดย่อมได้เลยทีเดียว เพียงทำตามสิ่งที่หนังสือเล่มนี้บอก (พูดง่ายแต่ทำยากสำหรับบางคนหรือป่าว?) หนังสือเล่มนี้ยังมีข้อดีอีกอย่างคือใช้ภาษาที่ง่ายและแทบไม่มีสูตรที่ซับซ้อนเลยแม้แต่นิดเดียว นักลงทุนมือใหม่น่าจะสามารถใช้เป็นหนังสือหุ้นเล่มแรกๆที่เอาไว้เริ่มต้นศึกษาได้อย่างดีทีเดียว
เปิดปมชีวิตสู่วิธีคิดแบบ วอร์เรน บัฟเฟตต์ เล่ม1 (THE SNOWBALL)
5
หนังสือประวัติของวอเร็น ละเอียดมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
โดย: ลักกี้แมน วันที่เขียนรีวิว: 24 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ในที่สุดหนังสือเล่มนี้ก็ถูกแปลออกมาเป็นภาษาไทยจนได้ ผมขอรีวิวหนังสือเล่มนี้ในฐานะคนที่เคยอ่านแบบเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษนะครับ เผื่อจะเป็นประโยชน์กับนักลงทุนที่ต้องการอ่านหนังสือของปู่บัฟเฟตกันบ้าง หนังสือประวัติเล่มเบ้อเริ่มของปู่นั้นมีความละเอียดมากโดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชีวิตและการทำธุรกิจของเขา นอกจากนี้ยังมีแทรกหลักการ การลงทุนของปู่แกอีกด้วยแต่อาจจะไม่เยอะเหมือนกับในจดหมายถึงผู้ถือหุ้น แต่สำหรับคนที่ต้องการทราบประวัติชีวิตนั้นบอกได้เลยว่าต้องซื้อ เพราะอย่างที่เห็นว่าเล่มหนามาก มันอัดแน่นไปด้วยข้อมูลอย่างละเอียด เรียกได้ว่าหาจากหนังสือเล่มอื่นไม่ได้อย่างแน่นอน หนังสือเล่มอื่นอาจจะเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับพื้นฐานการลงทุนแนวปู่ แต่หนังสือเล่มนี้จะเจาะลึกลงไปถึงผู้ที่เป็นนักลงทุนอันดับ 1 ของโลก ซึ่งถึงแม้ว่าอาจจะไม่ได้บอกเราถึงเทคนิคลับ (ซึ่งอาจจะไม่มีจริง) แต่มันก็ทำให้เราได้เข้าใจนักลงทุนผู้ใจดีคนนี้อย่างลึกซึ้งยิ่งกว่าหนังสือเล่มไหนๆอย่างแน่นอนครับ

ผมไม่ได้อ่าน snowball เป็นเวอร์ชั่นภาษาไทย และก็อ่านเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษมาหลายปีแล้วด้วย แต่ความประทับใจกับหนังสือเล่มนี้เทียบกับหนังสือที่เกี่ยวกับวอร์เร็นบัฟเฟตเล่มอื่นแล้วนับว่าดีกว่ามากครับ
ไม่ต้องไฮโซ ก็ลงทุนคอนโดได้
5
มีประสบการณ์ของผู้เขียนเยอะดีครับ
โดย: ลักกี้แมน วันที่เขียนรีวิว: 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ตอนแรกนึกว่าเนื้อหาในหนังสือเล่มนี้จะซ้ำๆกับหนังเล่มอื่นๆ หรือเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยจะมีประโยชน์ในเชิงการนำไปปฏิบัติจริงซักเท่าไหร่ แต่ตรงกันข้ามหนังสือเล่มนี้อาจจะดียิ่งกว่าหนังสือที่เน้นการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดเล่มอื่นเสียอีก โดยจะมีการนำเอาประสบการณ์ทั้งความสำเร็จและผิดพลาดหลากหลายตอนของผู้เขียนมาใส่ลงในเนื้อหาอยู่ตลอดทำให้อ่านแล้วไม่เบื่อเลย (เพราะผมชอบอ่านเรื่องราวของคนอื่นอิอิ) อย่างเช่นตอนที่ผิดพลาดเสียเงินหลายหมื่นและมีอยู่ครั้งหนึ่งที่ขาดทุนถึง 160,000 บาทด้วยซ้ำ (อ่านได้ในเล่มครับ) ทำให้กลายเป็นบทเรียนราคาแพงที่ทำให้ผู้เขียนจำแม่นเลยทีเดียว แต่เธอก็ไม่ยอมแพ้ ทุกอย่างกลับกลายมาเป็นประสบการณ์อันมีค่าทำให้กลายเป็นนักลงทุนคอนโดที่เก่งไม่เบาเลยในปัจจุบัน(ดูจากความรู้ที่ได้จากหนังสือเล่มนี้ บอกได้เลยว่าประสบการณ์ไม่น้อยแน่ๆ)

โดยเนื้อหามีตั้งแต่เรื่องราวในวัยเด็กจนโตและได้ทำงานของผู้เขียนได้ผ่านงานการเป็นพริตตี้ในสมัยก่อน การทำงานประจำ และงานฟรีแลนซ์อีกหลากหลาย และก็ได้ศึกษาการลงทุนหลากหลายรูปแบบ แต่ก็ได้มาพบกับการลงทุนในคอนโดที่ถือว่าค่อนข้างดีในสายตาของผู้เขียน และได้ศึกษาอย่างลึกซึ้งและลงทุนจริงเป็นต้นมา โดยเท่าที่อ่านพบว่าได้มีการซื้อขายน่าจะหลาย 10 ครั้งแล้วถือว่าเริ่มที่จะเก่งขึ้นเรื่อยๆ การอ่านเทคนิคต่างๆของผู้เขียนช่วยให้ผมได้ทราบเรื่องต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการเลือกซื้อคอนโดเพื่อสร้างรายได้อย่างมากมาย ไม่เพียงแค่นั้นยังได้เรียนรู้เกี่ยวกับข้อควรระวัง จุดสำคัญในการเลือกผู้เช่า การคิดคำนวนค่าเช่า การทำสัญญาเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการโกงขึ้นได้ การระวังคนที่อาจจะทำให้ห้องของเรามีปัญหา และอื่นๆอีกมากมายในหนังสือเล่มเล็กๆนี้ รับรองได้ว่ามีแต่เนื้อไม่มีน้ำครับ

โดยรวมแล้วอย่างที่บอกว่าดีกว่าพวกหนังสือที่เน้นการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์อย่างแน่นอน นอกจากนั้นอ่านแล้วไม่เบื่ือเลย ความรู้ก็เขี่ยนแล้วอ่านรอบเดียวแทบจะเข้าใจได้ 100% ครับ เขียนได้ดีมากจริงๆครับ
ไอ้แป๊ก...คนไทย...ที่อายุน้อยที่สุด...และเก่งที่สุดในโลก...
3
ไม่ค่อยโอครับ..............
โดย: ลักกี้แมน วันที่เขียนรีวิว: 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

อ่านแค่เอาสนุกได้ หรือเพื่อให้กำลังใจตัวเอง แต่หาสาระไม่ค่อยได้ แนะนำให้เอาใว้อ่านเวลาเดินทาง และไม่ต้องการหนังสือที่อ่านยากจนเกินไป แต่สำหรับคนที่ชอบอ่านหนังสือที่อ่านแล้วได้ความรู้นั้นบอกได้เลยว่าอย่าเสียเงินไปซื้อมาครับ = =
บุรุษที่รวยที่สุดในเมืองไทย
5
ข้อมูลเยอะครับ ซื้อแล้วคุ้ม ^^
โดย: ลักกี้แมน วันที่เขียนรีวิว: 09 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

หนังสือเล่มนี้มีผู้เขียนที่ได้เขียนเรื่องราวเกี่ยวกับมหาเศรษฐีมามากมายหลายคน ซึ่งผมก็เปนคนที่ชอบหนังสือแนวนี้เป็นพิเศษเพราะต้องการศึกษาหลักการทำธุรกิจของผู้ที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งเล่มนี้นั้นต้องบอกว่าผิดหวังเลย เพราะได้แง่คิดดีๆเยอะมาก รวมไปทั้งเนื้อหาไม่ได้เกิดจากการเขียนของผู้เขียนเท่านั้น แต่ประมาณครึ่งหนึ่งเป็นการคัดลอกจากการให้สัมภาษณ์ตามที่ต่างๆของคุณธนินท์เองเลย ซึ่งต้องบอกว่าเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมและตกผลึกที่สุดอย่างแน่นอนเลยครับ

เรื่องที่ผมชอบก็คือหลักการเข้าไปทำธุรกิจต่างๆของเครือซีพี คือจะต้องเป็นธุรกิจที่คนส่วนใหญ่ต้องกินต้องใช้ ถ้ามีผลกระทบเพียงคนกลุ่มน้อยจะไม่ทำ จะทำเฉพาะธุรกิจใหญ่ๆ ซึ่งก็เห็นได้จากบริษัทต่างๆของเครือซีพี ซึ่งล้วนแล้วแต่มีขนาดระดับแสนล้านทั้งสิ้น (market cap) เช่น cpall cpf true หรือแม้แต่ธุรกิจประกันต่างๆ ที่ไม่ได้อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ก็เป็นธุรกิจที่มีขนาดใหญ่มากเช่นกัน โดยเราสามารถเรียนรู้ได้ตรงนี้มากเพื่อที่ได้ไม่เข้าไปทำธุรกิจที่เล็กเกินไปทำให้ไม่สามารถขยายใหญ่ได้

ยังมีเรื่องเกี่ยวกับการบริหารคนในองค์กรต่างๆของซีพีที่จะแบ่งเป็นส่วนอย่างชัดเจน และจะไม่ยุ่งเกี่ยวกันทางการเงิน หมายความว่าถ้าจะกู้ธนาคารก็ต้องใช้ balance sheet ของบริษัทตัวเองเท่านั้น และภายในเล่ม เจ้าสัวยังให้ความสำคัญกับเรื่องของคนอย่างมากเลยทีเดียว ท่านได้บอกว่า ที่สำคัญที่สุดคือคน ไม่ใช่เงินทุัน เพราะคนเก่งสามารถหาเงินทุนได้ แต่ถ้ามีเงินทุนให้คนไม่เก่งไปทำ เท่าไหร่ก็หมด ซึ่งเป็นความจริงอย่างมาก ท่านยังได้พูดว่าซีพีนั้นเป็นที่รวมของคนเก่งสุดๆ ซึ่งก็คงจะจริงไม่น้อยเลยทีเดียว

ภายในเล่มจะมีการเล่าประวัติศาสตร์บ้างเป็นครั้งคราว เช่นสมัย true ยังเป็น เทเลคอมเอเชีย และได้ประมูลหมายเลขโทรศัพท์พื้นฐาน 2 ล้านเลขหมาย ซึ่งค่อนข้างเก่ามากหลายคนอาจจะไม่รู้จักด้วยซ้ำไป ทำให้เราได้เรียนรู้ถึงซีพีในสมัยก่อน ซึ่งตอนนี้ก็ได้เปลี่ยนไปมากมาย รวมถึงได้รู้จักผู้บริหารคนสำคัญตั้งแต่ก่อตั้งซีพีมาเลยทีเดียว

นอกจากนี้ยังมีเนื้อหาหลายบทที่เกี่ยวเนื่องกับเมืองจีน ที่ท่านธนินท์ได้ให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆเพราะประเทศจีนมีประชากรถึง 1,200 ล้านคน และเศรษฐกิจโตเร็วมากๆ ทำให้ซีพีได้เข้าไปทำธุรกิจในประเทศจีนก่อนที่จะเปิดประเทศอย่างแท้จริงเสียอีก ทำให้ตอนนี้มีธุรกิจอย่างมากมาย หมายความว่า ใน cpf นั้นมีรายได้จากประเทศจีนยู่ในระดับสูงเลยทีเดียว (ผมก็เพิ่งรู้จากการอ่านหนังสือเล่มนี้) โดยรวมแล้วเครือซีพีถือว่าเป็นธุรกิจระดับ global ซึ่งมีไม่มากในตลาดหลักทรัพย์ของเรา

ข้อเสียนิดหน่อยซึ่งยอมรับได้ไม่ยากของหนังสือเล่มนี้คือมีเนื้อหาบางส่วนที่ซ้ำบ้างแต่ก็ไม่ทำให้น่ารำคาญซักเท่าไหร่ครั บเมื่อเทียบกับส่วนสัมภาษณ์ของท่านธนินท์แล้ว คุ้มยิ่งกว่าคุ้มครับ
www.batorastore.com © 2024